ภูมิคุ้มกันบกพร่อง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
(Immunodeficiency)
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก
ICD-10D84.9
ICD-9279.3
DiseasesDB21506
MeSHD007153

ภูมิคุ้มกันบกพร่อง (อังกฤษ: immunodeficiency หรือ immune deficiency) ในทางการแพทย์ถือว่า เป็นภาวะที่ความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับโรคติดเชื้อลดลงหรือขาดไป ซึ่งส่วนมากพบเป็นแบบทุติยภูมิ หรือเกิดขึ้นภายหลัง (acquired หรือ secondary) แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะนี้มาตั้งแต่กำเนิด หรือเรียกว่าภูมิคุ้มกันบกพร่องแบบปฐมภูมิ (primary immunodeficiency) ในผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะจะได้รับยากดภูมิคุ้มกันเพื่อลดการต่อต้านอวัยวะปลูกถ่ายเช่นเดียวกับผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันมากเกินจนต่อต้านร่างกายตนเอง สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องจะมีโอกาสติดเชื้อจากการติดเชื้อฉวยโอกาส (opportunistic infection) เพิ่มนอกเหนือไปจากการติดเชื้อทั่วไปที่เกิดขึ้นกับทุกคน

ชนิด[แก้]

ภูมิคุ้มกันบกพร่องแบบปฐมภูมิ[แก้]

โรคที่พบยากบางชนิดมีลักษณะการเพิ่มความไวรับต่อการติดเชื้อตั้งแต่วัยเด็ก ความผิดปกติดังกล่าวมักถ่ายทอดทางพันธุกรรมและมีลักษณะด้อย (autosomal recessive) หรือมียีนบนโครโมโซมเพศ (X-linked) กลุ่มอาการที่ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิดพบแล้วมากกว่า 80 กลุ่มอาการซึ่งมีลักษณะร่วมกันของความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกัน เช่นในลิมโฟไซต์หรือแกรนูโลไซต์[1]

การรักษาภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิดขึ้นกับธรรมชาติของโรค และอาจต้องให้แอนติบอดีในเส้นเลือด การใช้ยาปฏิชีวนะระยะยาว หรือในบางกรณีอาจรักษาด้วยสเต็มเซลล์

ภูมิคุ้มกันบกพร่องแบบเกิดภายหลัง[แก้]

ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจเป็นผลจากปัจจัยภายนอกหรือโรคบางอย่าง จึงเรียกผลดังกล่าวว่าภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องแบบทุติยภูมิ หรือเกิดขึ้นภายหลัง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากทุพโภชนาการ (malnutrition) , ความชรา (aging) และยาบางชนิด เช่น เคมีบำบัด, ยารักษาโรคข้ออักเสบรูมาทอยด์ (disease-modifying antirheumatic drugs) , สารกดภูมิคุ้มกัน (immunosuppressive drugs) ที่ให้หลังจากการปลูกถ่ายอวัยวะ, และสเตอรอยด์เช่นกลูโคคอร์ติคอยด์ (glucocorticoids)

โรคบางชนิดมีผลทางตรงและทางอ้อมในการทำลายระบบภูมิคุ้มกัน เช่นมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งไขกระดูกและเม็ดเลือด (เช่นมะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia) , มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (lymphoma) หรือมัลติเปิลไมอีโลมา (multiple myeloma) และโรคเรื้อรังบางชนิด ที่รู้จักกันดีเช่นเอดส์ (AIDS) หรือกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อมซึ่งมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องเป็นอาการหลัก เกิดจากไวรัสเอชไอวี (HIV) ซึ่งทำลายระบบภูมิคุ้มกันทางอ้อม

ในประเทศไทย สาเหตุของภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่พบได้บ่อยคือการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งพบได้มากกว่าภูมิคุ้มกันบกพร่องแบบปฐมภูมิ การวินิจฉัยเด็กที่สงสัยว่ามีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องจึงควรคำนึงถึงโรคเอดส์เอาไว้ด้วย[2]

อ้างอิง[แก้]

  1. Rosen FS, Cooper MD, Wedgwood RJ (1995). "The primary immunodeficiencies". N. Engl. J. Med. 333 (7): 431–40. doi:10.1056/NEJM199508173330707. PMID 7616993.{{cite journal}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
  2. อรวดี หาญวิวัฒน์วงศ์ (บรรณาธิการ). วิทยาภูมิคุ้มกันพื้นฐานและคลินิก. กรุงเทพฯ:คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2551.