ส่าไข้
ส่าไข้ | |
---|---|
ชื่ออื่น | Exanthema subitum,[1] roseola infantum,[1] sixth disease,[1] baby measles, ผื่นกุหลาบ (rose rash of infants), ไข้สามวัน (three-day fever) |
![]() | |
ผื่นส่าไข้บริเวณแขนและขาของเด็กหญิงอายุ 21 เดือน | |
สาขาวิชา | โรคติดเชื้อ |
อาการ | มีไข้ก่อน แล้วตามด้วยผื่น[1] |
ภาวะแทรกซ้อน | ชักจากไข้[1] |
การตั้งต้น | ก่อนอายุ 3 ปี[1] |
ระยะดำเนินโรค | ไม่กี่วัน[2] |
สาเหตุ | Human herpesvirus 6 (HHV-6) หรือ human herpesvirus 7 (HHV-7)[1] |
วิธีวินิจฉัย | โดยทั่วไปอาศัยอาการทางคลินิก[1] |
โรคอื่นที่คล้ายกัน | หัด, หัดเยอรมัน, ไข้ดำแดง[1] |
การรักษา | รักษาตามอาการ[1] |
พยากรณ์โรค | โดยทั่วไปดี[1] |
ส่าไข้[3] หรือ ไข้ผื่นกุหลาบ (อังกฤษ: roseola infantum) เป็นโรคไข้ออกผื่นชนิดหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์สายพันธุ์มนุษย์บางชนิด[2] ส่วนใหญ่พบในเด็กอายุไม่เกิน 3 ปี[1] อาจมีอาการได้หลากหลายตั้งแต่มีอาการเล็กน้อยจนเหมือนไม่มีอาการ ไปจนถึงมีไข้สูงตามด้วยผื่นขึ้นทั่วตัวหลังหายไข้ ผู้ป่วยมักเป็นไข้อยู่ 3-5 วัน ผื่นมักมีสีแดงอมชมพู มักเป็นอยู่ประมาณ 3 วัน ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้คือภาวะชักจากไข้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วไม่ถือเป็นภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ในขณะที่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงนั้นพบได้น้อยมาก
ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคนี้คือฮิวแมนเฮอร์ปีส์ไวรัส 6 และ ฮิวแมนเฮอร์ปีส์ไวรัส 7 ติดต่อกันจากคนสู่คน โดยเชื้อจะออกมากับน้ำลายของผู้ที่มีเชื้อ (ซึ่งอาจมีอาการป่วยหรืออาจไม่มีก็ได้) นอกจากนี้ยังอาจติดจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ได้ด้วย การวินิจฉัยทำได้โดยพิจารณาจากอาการและอาการแสดง และอาจตรวจยืนยันได้ด้วยการตรวจเลือด อาจตรวจพบเม็ดเลือดขาวมีจำนวนน้อยกว่าปกติได้
โรคนี้หายได้เอง การรักษาเป็นการรักษาตามอาการ ได้แก่ การให้สารน้ำให้เพียงพอ และใช้ยาลดไข้เมื่อจำเป็น แทบทุกคนจะเคยเป็นโรคนี้มาแล้วอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต เพศชายและเพศหญิงมีโอกาสเป็นโรคนี้เท่าๆ กัน โรคนี้ได้รับการบรรยายไว้เป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1910 และพบไวรัสที่เป็นสาเหตุเมื่อ ค.ศ. 1988 ในบางครั้งหากระดับภูมิคุ้มกันลดลงโรคนี้อาจกลับมาแสดงอาการซ้ำได้ และอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้หลายอย่าง
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.00 1.01 1.02 1.03 1.04 1.05 1.06 1.07 1.08 1.09 1.10 1.11 Stone, RC; Micali, GA; Schwartz, RA (April 2014). "Roseola infantum and its causal human herpesviruses". International Journal of Dermatology. 53 (4): 397–403. doi:10.1111/ijd.12310. PMID 24673253. S2CID 2652000.
- ↑ 2.0 2.1 Campadelli-Fiume, Gabriella (1999). "Human Herpesvirus 6: An Emerging Pathogen". Emerging Infectious Diseases (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 5 (3): 353–366. doi:10.3201/eid0503.990306. PMC 2640789. PMID 10341172.
- ↑ https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=40&chap=8&page=t40-8-infodetail04.html[ลิงก์เสีย]
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]การจำแนกโรค | |
---|---|
ทรัพยากรภายนอก |