ข้ามไปเนื้อหา

Apalone

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Apalone
ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ปลายสมัยไมโอซีน - ปัจจุบัน, 12–0Ma อาจปรากฏอยู่ในช่วงสมัยอีโอซีนและปลายยุคครีเทเชียส
ตะพาบหนาม (Apalone spinifera)
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ แก้ไขการจำแนกนี้
โดเมน: ยูแคริโอตา
Eukaryota
อาณาจักร: สัตว์
Animalia
ไฟลัม: สัตว์มีแกนสันหลัง
Chordata
ชั้น: สัตว์เลื้อยคลาน
อันดับ: เต่า
อันดับย่อย: เต่า
Cryptodira
วงศ์: วงศ์ตะพาบ
วงศ์ย่อย: วงศ์ย่อยตะพาบ
สกุล: Apalone

Rafinesque, 1832
ชนิด

3 ชนิดที่ได้รับการระบุไว้ ดูเนื้อหา

ชื่อพ้อง

Mesodeca Rafinesque, 1832
Platypeltis Fitzinger, 1835
Glalypeltis Cope, 1860 (ex errore)
Callinia Gray, 1869
Euamyda Stejneger, 1944
Platyrettis Kirsch, 1944 (ex errore)[1]

Apalone เป็นสกุลของเต่า ในวงศ์ Trionychidae โดยทั้งสามชนิดในสกุล Apalone มีถิ่นกำเนิดในแหล่งน้ำจืดของอเมริกาเหนือ ซึ่งจัดเป็นตะพาบเพียงสกุลเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่จากทวีปอเมริกา (ตะพาบในอเมริกาชนิดอื่น ๆ พบได้จากซากฟอสซิลเท่านั้น)[2]

ขอบเขตทางภูมิศาสตร์

[แก้]

ชนิดในสกุล Apalone ส่วนใหญ่ถูกจำกัดอยู่แค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แม้ว่าชนิดของตะพาบหนาม (A. spinifera) ซึ่งขยายไปจนถึงทางตอนใต้ของประเทศแคนาดาและทางตอนเหนือของประเทศเม็กซิโกก็ตาม

หลักฐานฟอสซิลชี้ให้เห็นว่า Apalone อาจกระจายพันธุ์ทางไปถึงตอนใต้สุดที่ประเทศคอสตาริกาในสมัยไพลโอซีน[2]

อนุกรมวิธาน

[แก้]

Apalone เป็นการจำแนกใหม่ที่ได้รับการรื้อฟื้นโดย Meylan ในปี ค.ศ. 1987[3] โดยกำหนดให้เป็นชนิดอเมริกาเหนือของสกุล Trionyx ในตำราบางเล่มยังระบุว่ายังเป็นสกุล Trionyx (ปัจจุบัน Trionyx หมายถึงตะพาบชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะซึ่งพบส่วนใหญ่ในแอฟริกา)

โดยทั่วไปแล้ว การศึกษาวิวัฒนาการระดับโมเลกุลแสดงให้เห็นว่าสกุล Apalone มีความใกล้ชิดกับสกุล Rafetus ในเอเชียซึ่งใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง โดยทั้งสองสกุลมีแนวโน้มที่จะแยกออกจากกันในช่วงปลายสมัยอีโอซีน บรรพบุรุษของสกุล Apalone มีแนวโน้มว่าจะข้ามจากเอเชียไปยังอเมริกาเหนือผ่านเบอรินเจีย โดยใช้ประโยชน์จากสภาพอากาศที่อบอุ่นในสมัยอีโอซีน[4][5]

ชนิด

[แก้]

สามชนิดต่อไปนี้เป็นชนิดได้รับการยอมรับ[6]

หมายเหตุ : ผู้ตั้งชื่อทวินามในวงเล็บบ่งชี้ว่าชนิดนี้ได้รับการอธิบายไว้ในสกุลอื่นที่ไม่ใช่สกุล Apalone ในตอนแรก

หน่วยอนุกรมวิธานซากดึกดำบรรพ์

[แก้]

ฟอสซิลชนิดที่แน่นอนชนิดหนึ่งคือ A. amorense Valdes, Bourque & Vitek, 2017 จากสมัยไมโอซีนตอนปลาย (คลาเรนโดเนียนตอนปลาย, Clarendonian) ของรัฐฟลอริดา (การก่อตัวของอแลชูเอ, Alachua Formation)[7]

นอกจากนี้ ฟอสซิลอีก 2 ชนิด ซึ่งโดยทั่วไปจัดอยู่ใน " Trionyx " sensu lato อาจเป็นสกุล Apalone ได้แก่ Apalone latus (Gilmore, 1919) จากสมัยแคมพาเนียน (Campanian) ใน Dinosaur Park Formation ในรัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา และ Apalone leucopotamica (Cope, 1891) จากสมัยอีโอซีนตอนปลาย ใน Cypress Hills Formation ในรัฐซัสแคตเชวัน ทั้งสองชนิดนี้มีอายุเก่าแก่มากกว่าชนิดอื่น ๆ ที่ถูกระบุในสกุล Apalone มาก และยังมีอายุเก่าแก่กว่าการแยกสกุลที่สันนิษฐานไว้โดยอิงจากวิวัฒนาการระดับโมเลกุลอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการทดสอบอย่างเข้มงวดใด ๆ เหล่านี้ และการจัดสกุลเหล่านี้ภายใน Apalone อาจเป็นเพียงผลของโฮโมพลาซี หรือ การวิวัฒนาการอย่างอิสระของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้มีบรรพบุรุษร่วมกัน แต่กลับได้ลักษณะที่คล้ายกัน[2][7]

ความแตกต่างทางเพศ

[แก้]

ตะพาบในสกุล Apalone มีความแตกต่างทางเพศที่ชัดเจน โดยเพศเมียจะมีขนาดกระดองยาวประมาณสองเท่าของเพศผู้ ในเพศผู้ เล็บเท้าหน้าจะยาวกว่าเล็บเท้าหลัง แต่ในเพศเมียเล็บเท้าหลังจะยาวกว่า และในเพศผู้ จะมีหางที่หนาจะยาวเลยขอบด้านหลังของกระดองออกไปมาก แต่ในเพศเมีย จะมีหางที่ค่อนข้างบางและยาวไม่ถึงขอบกระดอง[8]

พฤติกรรม

[แก้]

ตะพาบสกุล Apalone เป็นนักว่ายน้ำที่รวดเร็วและไล่เหยื่อในน้ำ โดยจะกินปลาเป็นอาหารหลัก และยังชอบความสบายจากทรายที่ใช้เป็นที่นอนอีกด้วย

เชิงอรรถและอ้างอิง

[แก้]
  1. Fritz, Uwe; Havaš, Peter (2007). Checklist of Chelonians of the World. Dresden: Museum für Tierkunde Dresden.
  2. 2.0 2.1 2.2 Vitek, Natasha S.; Joyce, Walter G. (2015). "A Review of the Fossil Record of New World Turtles of the Clade Pan-Trionychidae". Bulletin of the Peabody Museum of Natural History. 56 (2): 185–244. doi:10.3374/014.056.0204. ISSN 0079-032X. S2CID 86006102.
  3. Meylan PA (1987). "The phylogenetic relationships of soft-shelled turtles (family Trionychidae)". Bull. American Mus. Nat. Hist. 186: 1-101.
  4. Le, Minh; Duong, Ha T.; Dinh, Long D.; Nguyen, Truong Q.; Pritchard, Peter C. H.; McCormack, Timothy (2014-09-01). "A phylogeny of softshell turtles (Testudines: Trionychidae) with reference to the taxonomic status of the critically endangered, giant softshell turtle, Rafetus swinhoei". Organisms Diversity & Evolution (ภาษาอังกฤษ). 14 (3): 279–293. Bibcode:2014ODivE..14..279L. doi:10.1007/s13127-014-0169-3. ISSN 1618-1077.
  5. Thomson, Robert C.; Spinks, Phillip Q.; Shaffer, H. Bradley (2021-02-16). "A global phylogeny of turtles reveals a burst of climate-associated diversification on continental margins". Proceedings of the National Academy of Sciences. 118 (7): e2012215118. Bibcode:2021PNAS..11812215T. doi:10.1073/pnas.2012215118. PMC 7896334. PMID 33558231.
  6. "Apalone ". The Reptile Database. www.reptile-database.org.
  7. 7.0 7.1 Valdes, Natalí; Bourque, Jason; Vitek, Natasha (2017-10-08). "A new soft-shelled turtle (Trionychidae, Apalone) from the Late Miocene of north-central Florida". Bulletin of the Florida Museum of Natural History (ภาษาอังกฤษ). 55 (6): 117–138. doi:10.58782/flmnh.mclw7941. ISSN 2373-9991.
  8. Smith HM, Brodie ED Jr (1982). Reptiles of North America: A Guide to Field Identification. New York: Golden Press. 240 pp. ISBN 0-307-13666-3. (SOFTSHELL TURTLES—family Trionychidae, p. 30).

อ่านเพิ่มเติม

[แก้]
  • Rafinesque CS (1832). "Description of two new genera of Soft Shell Turtles of North America". Atlantic Journal and Friend of Knowledge 1: 64–65. (Apalone, new genus, p. 64).

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]